ส่อง ‘รีเทิร์น’ 4 ไอพีโอ ก.ย.66 GFC-COCOCO-SINO กระเป๋าตุง SAV เจ็บ !

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรยากาศการลงทุนใน “ตลาดหุ้นไทย” ในช่วงเดือนก.ย. 2566 จะเป็น “ขาขึ้น” หรือ “ขาลง” ภาพก็ยังไม่ชัดเจนนัก ! อาจจะด้วยสารพัดปัจจัยรุมเร้าที่ยังคงปกคลุมต่อเนื่อง แต่สำหรับ “หุ้นไอพีโอ” ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้น “เก็งกำไร” ในวันแรกของการเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น ถือว่ายังคงเคลื่อนไหวยังคง “ร้อนแรง” ต่อเนื่องสวนทางตลาดหุ้นที่ผันผวน...  

สะท้อนผ่านเดือนก.ย.2566 ยังมีหุ้นไอพีโอที่เดินเครื่องเข้าระดมทุนวันแรก (เทรด) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ไม่ขาดสาย !! จำนวน 4 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 4,007 ล้านบาท!!

ประกอบด้วย บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ GFC , บมจ. ไทย โคโคนัท หรือ COCOCO , บมจ. ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SINO และ บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ หรือ SAV

“กรุงเทพธุรกิจ” สำรวจ “ผลตอบแทน” (รีเทิร์น) ราคา “4 หุ้นไอพีโอ” ที่เข้าซื้อขายวันแรก (เทรด) ในเดือนก.ย.2566 พบว่า บมจ. เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ GFC ประกอบธุรกิจคลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ภายใต้ชื่อ “Genesis Fertility Center” ในย่านพระราม 3 ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร

โดย “หุ้น GFC” เปิดซื้อขายวันแรกในตลาด mai เมื่อ 13 ก.ย.2566 ราคาเปิดที่ 10.70 บาท เพิ่มขึ้น 3.70 บาท 52.85% จากไอพีโอ 7 บาท ก่อนเคลื่อนไหวมาปิดตลาดอยู่ที่ 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 50 % มูลค่าระดมทุนราว 420 ล้านบาท

“จุดเด่น” ที่น่าสนใจของ “หุ้น GFC” คือ การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการทางการแพทย์สำหรับ “ผู้มีบุตรยาก” ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัยแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งแต่ให้คำแนะนำ คำปรึกษา ตลอดจนการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม

บมจ.ไทย โคโคนัท หรือ COCOCO ผู้ประกอบการผลิต และส่งออกสินค้าแปรรูปจากมะพร้าว เช่น กะทิบรรจุกระป๋อง กะทิบรรจุกล่องยูเอชที (UHT) กะทิพาสเจอไรซ์ น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋อง น้ำมะพร้าวกล่องยูเอชที (UHT) น้ำมะพร้าวพาสเจอไรซ์ ขนมมะพร้าว และอาหารสำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า “Thaicoco” และ “Cocoburi” รวมถึงการผลิตสินค้าเพื่อการอุตสาหกรรม ยังประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัข และแมว ภายใต้ตราสินค้า “Moochie” 

โดย “หุ้น COCOCO” เปิดซื้อขายวันแรกในตลาด SET เมื่อ 14 ก.ย.2566 ราคาเปิดที่ 8 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท 45.45% จากไอพีโอ 5.50 บาท ก่อนเคลื่อนไหวมาปิดตลาดอยู่ที่ 7.90 บาท เพิ่มขึ้น 2.40 บาท หรือ 43.64% มูลค่าระดมทุน 2,035 ล้านบาท

“จุดเด่น” ของหุ้น COCOCO นั่นคือ ที่มีฐานลูกค้าในต่างประเทศ 90 ประเทศทั่วโลก ! ซึ่งครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก ทั้งใน กลุ่มประเทศอเมริกาเหนือและใต้ , กลุ่มประเทศยุโรป , กลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิก , กลุ่มประเทศเอเชียใต้ , กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง , กลุ่มประเทศโอเชียเนีย และกลุ่มประเทศแอฟริกา ซึ่งมียอดขายมากกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี ของกลุ่มตระกูล “ชิ้นปิ่นเกลียว”

บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SINO ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ที่มีความชำนาญในเส้นทางขนส่งทางทะเลในเส้นทางไทย-สหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

โดย “หุ้น SINO” เปิดซื้อขายวันแรกในตลาด SET เมื่อ 20 ก.ย.2566 ราคาเปิดที่ 1.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 14.29% จากราคาไอพีโอ 1.40 บาท ก่อนเคลื่อนไหวมาปิดตลาดอยู่ที่ 1.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 37.86% มูลค่าระดมทุน 336 ล้านบาท

“จุดเด่น” ของ SINO คือ มีเป้าหมายเป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรและขยายความครอบคลุมไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากแผนกลยุทธ์ต่อยอดความชำนาญการให้บริการขนส่งทางทะเลในเส้นทางสหรัฐ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา และอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลให้มากขึ้น

บมจ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ หรือ SAV ผู้ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding company) โดยมีบริษัทย่อยเพียง 1 บริษัท ซึ่งบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นสัดส่วน 100% คือ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) ซึ่งจดทะเบียนก่อตั้งในประเทศกัมพูชา เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการบริหารจัดการควบคุมการจราจรทางอากาศทั่วน่านฟ้าประเทศกัมพูชาเพียงผู้เดียว ตั้งแต่ปี 2545-2594

โดย “หุ้น SAV” เปิดซื้อขายวันแรกในตลาด SET เมื่อ 26 ก.ย.2566 ราคาเปิดที่ 18.80 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 1.05% จากไอพีโอ 19 บาท ก่อนเคลื่อนไหวมาปิดตลาดอยู่ที่ 15.30 บาท ลดลง 3.70 บาท หรือ 19.47% มูลค่าระดมทุนราว 1,216 ล้านบาท

“จุดเด่น” ของ SAV คือ เป็นธุรกิจหายาก ทำรายเดียวในน่านน้ำประเทศกัมพูชา ความเสี่ยงน้อย ได้สัมปทานระยะยาว ปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่น มีศักยภาพที่จะเติบโต เป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 50% มีอัตรากำไรสุทธิ 25% ซึ่ง SAV ดำเนินการบริหารสัญญามา 21 ปีแล้ว เหลืออีก 28 ปี จากสัญญารวม 49 ปี ในเงื่อนไขสัมปทานถ้ามีลงทุนเพิ่มขอขยายเวลาสัมปทานได้อีกขึ้นอยู่กับปริมาณเงินลงทุนที่จะลงทุนเพิ่ม 

อย่างไรก็ตาม “4 หุ้นไอพีโอ” ที่เข้าซื้อขายในเดือนก.ย.2566 ส่วนใหญ่สร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนเป็นกอบเป็นกำ สะท้อนจากผลตอบแทนในวันแรกที่เข้าซื้อขายราคาเปิดบวก มีเพียงหุ้น SAV ที่ผลตอบแทนติดลบ !!

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ