วิเคราะห์บอล คาราบาว คัพ ลิเวอร์พูล VS เลสเตอร์ ซิตี้ คาด 11 ตัวจริง ฟันธงผลแข่ง

วิเคราะห์บอล คาราบาว คัพ ลิเวอร์พูล VS คริสตัล พาเลซ คาด 11 ตัวจริง ฟันธงผลแข่ง

วิเคราะห์บอลศึก คาราบาว คัพ รอบ 3 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูง ลงเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงเดอะ แชมเปียนชิพ คู่นี้ฟาดแข้งกันวันอังคารที่ 26 กันยายน 2566 เวลา 01.45 น. ช่อง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32, เว็บไซต์ไทยรัฐ และแอปพลิเคชันไทยรัฐ ถ่ายทอดสด

ความเคลื่อนไหวของ ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูง ภายใต้การดูแลของ เยอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่เลือดเบียร์ จะนำทัพ “หงส์แดง” ลงเล่นในรังดวลกับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงเดอะ แชมเปียนชิพ ที่มี เอ็นโซ มาเรสกา เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน คู่นี้ฟาดแข้งกันวันอังคารที่ 26 กันยายน 2566 เวลา 01.45 น. ช่อง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32, เว็บไซต์ไทยรัฐ และแอปพลิเคชันไทยรัฐ ถ่ายทอดสด

วิเคราะห์ ลิเวอร์พูล
เยอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ยังไม่มี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ยังเจ็บ แต่คนอื่นๆ ก็ยังอยู่กันพร้อม เตรียมโรเตชันนักเตะให้โอกาสแข้งสำรองได้วาดลวดลายบ้าง แนวรับ อิบราฮิมา โกนาเต, จาเรลล์ อัมโรริน ควานซาห์ จะได้ลงเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ขนาบข้างด้วย โจ โกเมซ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทางขวาและซ้าย แดนกลาง วาตารุ เอ็นโดะ ผนึกกำลัง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, ไรอัน กราเวนเบิร์ช คุมเกมกลางสนาม แดนหน้า ดิเอโก โชตา ผนึกกำลัง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และ โคดี กัคโป ยืนเป็น 3 ประสานแดนหน้า

วิเคราะห์ เลสเตอร์ ซิตี้
เอ็นโซ มาเรสกา เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนของเลสเตอร์ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ เกมนี้จะยึดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงวาดลวดลาย แนวรับ เวาท์ ฟาเอส, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แฮร์รี วิงค์ส คุมเกมกลางสนามร่วมกับ วิลเฟร็ด เอ็นดีดี, คีแนน ดิวส์เบอร์รี-ฮอลล์ แดนหน้าวาง คาเลชิ อิเฮียนัคโช ผนึกกำลัง สเตฟี มาวีดีดี และ อับดุล ฟาตาวู อิสซาฮาคุ ลงล่าตาข่าย

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีมที่คาดว่าจะลงสนามเกมนี้

ลิเวอร์พูล : คีวีน เคลเลเฮอร์ (GK), โจ โกเมซ, จาเรลล์ อัมโรริน ควานซาห์, อิบราฮิมา โกนาเต, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, วาตารุ เอ็นโดะ, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, ไรอัน กราเวนเบิร์ช, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โคดี กัคโป, ดิเอโก โชตา

เลสเตอร์ ซิตี้ : แมดส์ เออร์มานเซน (GK), ฮัมซา เชาด์ฮูรี, เวาท์ ฟาเอส, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, คัลลัม ดอล์ย, วิลเฟร็ด เอ็นดีดี, คีแนน ดิวส์เบอร์รี-ฮอลล์, แฮร์รี วิงค์ส, สเตฟี มาวีดีดี, คาเลชิ อิเฮียนัคโช, อับดุล ฟาตาวู อิสซาฮาคุ

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล
24/09/23 ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 (เหย้า/พรีเมียร์ลีก)
22/09/23 ชนะ แอลเอเอสเค ลินซ์ 3-1 (เยือน/ยูโรปาลีก)
16/09/23 ชนะ วูฟส์แฮมป์ตัน 3-1 (เยือน/พรีเมียร์ลีก)
03/09/23 ชนะ แอสตัน วิลลา 3-0 (เหย้า/พรีเมียร์ลีก)
27/08/23 ชนะ นิวคาสเซิล 2-1 (เยือน/พรีเมียร์ลีก)

เลสเตอร์ ซิตี้
23/09/23 ชนะ บริสตอล ซิตี้ (เหย้า/เดอะ แชมเปียนชิพ)
20/09/23 ชนะ นอริช ซิตี้ (เยือน/เดอะ แชมเปียนชิพ)
29/08/23 ชนะ ทรานเมียร์ 2-0 (เยือน/คาราบาว คัพ)
26/08/23 ชนะ ร็อธเธอร์แฮม 2-1 (เยือน/เดอะ แชมเปียนชิพ)
19/08/23 ชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 2-1 (เหย้า/เดอะ แชมเปียนชิพ)

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด
30/06/23 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-0 (อุ่นเครื่อง)
16/05/23 เลสเตอร์ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 (พรีเมียร์ลีก)
30/12/22 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
10/02/22 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
28/12/21 เลสเตอร์ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (พรีเมียร์ลีก)

ทรรศนะ : ลิเวอร์พูล เกมนี้มีการโรเตชันกันมากพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะขุมกำลังของ “หงส์แดง” ถือว่าแข็งแกร่งพอตัวเลยทีเดียว โดยเฉพาะแนวรุกที่ค่อนข้างจัดจ้าน ส่งใครลงมาก็ยิงได้ทั้งหมด ด้าน เลสเตอร์ ซิตี้ มาเยือนเกมนี้ด้วยฟอร์มที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน ชนะ 7 จาก 8 นัดที่ลงสนาม นำเป็นจ่าฝูงของ เดอะ แชมเปียนชิพ ในตอนนี้ มาเยือนด้วยความมั่นใจ พร้อมขุมกำลังชุดใหญ่ รูปเกมจะเป็นทาง “หงส์แดง” ที่จะเดินหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม ด้าน “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” แม้ว่าจะวางแผนมาเน้นรับและโต้ แต่จังหวะเข้าทำให้เจ้าถิ่นนั้นโคตรอันตรายทั้ง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โคดี กัคโป, ดิเอโก โชตา จึงน่าจะฉีกแนวรับทีมเยือนให้ขาดเป็นวิ่นๆ ได้ไม่ยาก
ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 2-0

โปรแกรมฟุตบอล คาราบาว คัพ ประจำวันพุธที่ 27 กันยายน 2566
เวลา   คู่แข่งขัน  สกอร์ที่คาด
01.45 น. แอสตัน วิลลา - เอฟเวอร์ตัน 1-0
01.45 น. แบล็คเบิร์น - คาร์ดิฟฟ์ 1-0
01.45 น. บอร์นมัธ - สโตค ซิตี 2-1
01.45 น. เบรนท์ฟอร์ด - อาร์เซนอล 1-2
01.45 น. เชลซี - ไบรท์ตัน 0-1
01.45 น. ฟูแลม - นอริช 1-0
01.45 น. ลินคอล์ม ซิตี - เวสต์แฮม 0-3
01.45 น. ลิเวอร์พูล - เลสเตอร์ซิตี้ 2-0
02.00 น. นิวคาสเซิล - แมนฯ ซิตี้ 1-1