บ้านเขาเมืองเรา เมื่อสหรัฐอเมริกาเสื่อมในอัตราเร่ง

การศึกษาดังกล่าวมิได้จัดทำโดยบุคคลหรือองค์กรที่มีอคติต่อสหรัฐเป็นที่ประจักษ์ หากจัดทำโดย “บริษัทแรนด์” ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการเป็นมืออาชีพและมีความเป็นกลางทางการเมือง งานชิ้นนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุนของกระทรวงกลาโหมอเมริกันและเผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ปัจจัยนำที่ทำให้สหรัฐเสื่อมลงในอัตราเร่ง ได้แก่ (1) การเสพติดความฟุ่มเฟือยและความเสื่อมทรามทางศีลธรรมจรรยา (2) ความล้มเหลวด้านการติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (3) ภาครัฐล้าสมัยคล้ายเต่าล้านปี (4) การละทิ้งหน้าที่พลเมือง (5) ภารกิจทางทหารที่มากเกินกำลัง (6) การเห็นแก่ตัวและการขัดแย้งกันของกลุ่มชนชั้นนำ และ (7) การทำลายสิ่งแวดล้อม

ประวัติศาสตร์บ่งว่า การเสื่อมลงแบบนี้แทบไม่มีทางแก้ไข มีแต่จะล่มสลายไปไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรโรมัน อาณาจักรออตโตมาน หรืออาณาจักรออสโตร-ฮังกาเรียน

อย่างไรก็ดี ชาวอเมริกันยังมีโอกาสป้องกันมิให้ความล่มสลายเกิดขึ้นและอาจรื้อฟื้นประเทศให้กลับมาหากยอมรับว่า ตนมีปัญหาสาหัส หาทางแก้ไขให้ตรงจุดโดยปราศจากการยึดติดอุดมการณ์ทางการเมือง มีโครงสร้างทางธรรมาภิบาลที่ดี และที่สำคัญที่สุดคือ ชนชั้นนำต้องพร้อมใจกันทำดีเพื่อส่วนรวม

เมื่อประเมินปัจจัยเหล่านี้ทีละอย่าง การศึกษาสรุปว่า สหรัฐไม่มีความพร้อม แต่ก็ยังไม่น่าสิ้นหวังเพราะมีตัวอย่างทั้งในอังกฤษและในสหรัฐเองให้ดู

หลังประสบความสำเร็จจนขยายอาณาจักรไปทั่วโลก เริ่มจากตอนก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม อังกฤษเริ่มเน่าจากข้างในทั้งในด้านบุคคลและด้านสิ่งแวดล้อมเพราะกระบวนการพัฒนาการอุตสาหกรรม ความฉ้อฉลและความหย่อนสมรรถภาพของสถาบันทางการเมือง การผูกขาดทางการเมืองโดยกลุ่มเศรษฐีที่ดิน และการเพิ่มขึ้นของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ แต่อังกฤษไม่ล่มสลายเพราะทุกฝ่ายพร้อมใจกันแก้ปัญหา

สหรัฐประสบปัญหาสาหัสหลังความก้าวหน้าด้านการอุตสาหกรรมนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำจนทำสังคมเป็นพิษ ความเสียหายร้ายแรงทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และความฉ้อฉล การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของชาวอเมริกันหัวก้าวหน้านำโดยประธานาธิบดีทีโอดอร์ โรเซอเวลต์ สามารถแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศต่อไปได้

ในปัจจุบัน ชาวอเมริกันมีทั้งตัวอย่างดังกล่าวและมีเครื่องมือสำหรับรื้อฟื้นประเทศให้กลับคืนมา แต่ถ้าไม่ทำ จะพบความล่มสลายแน่นอน

การศึกษาชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของการประเมินความมั่นคงของสหรัฐ ในบริบทความก้าวหน้าและความท้าทายของจีน แต่ไม่ได้พูดถึงประวัติศาสตร์ของจีนซึ่งเคยก้าวหน้ากว่าชาวโลกมาก่อนแล้วเสื่อมไปหลังหลายร้อยปีจึงกลับมาก้าวหน้าอีก

ส่วนการยกตัวอย่างอังกฤษก็มิได้พูดถึงเรื่องความไม่ล่มสลายคล้ายอาณาจักรในอดีตนั้น เป็นเพราะสหรัฐซึ่งเป็นมหาอำนาจใหม่มิได้ท้าทายอังกฤษ ตรงข้ามร่วมมือกับอังกฤษและพันธมิตรครองโลกโดยใช้การบริหารบ้านเมืองตามแนวประชาธิปไตยและใช้หลักตลาดเสรีพัฒนาเศรษฐกิจ

ณ วันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ระบอบประชาธิปไตยในสหรัฐ อังกฤษ และพันธมิตร มิได้เป็นไปในแนวอุดมการณ์ เนื่องจากถูกครอบงำโดยกลุ่มผลประโยชน์โดยเฉพาะพวกมหาเศรษฐี ส่วนระบบตลาดเสรีก็ถูกบิดเบือนไปจากหลักการเบื้องต้น เพราะถูกกลุ่มผลประโยชน์ผูกขาดตลาดหลักต่างๆ อย่างแทบทั่วถึง

จีนจึงเสนอทางเลือกโดยการทำตัวอย่างให้ดู ซึ่งประกอบด้วยระบบเผด็จการบริหารบ้านเมืองและระบบตลาดเสรีที่มีภาครัฐควบคุมอย่างเข้มงวดพัฒนาเศรษฐกิจ

ตลอดช่วงเวลากว่าสามทศวรรษที่ผ่านมา จีนก้าวหน้าในอัตราเร่งในขณะที่สหรัฐกำลังเสื่อมลงในอัตราเร่ง ปริศนาที่น่าขบคิดคือ จีนจะท้าทายสหรัฐเช่นเดียวกับมหาอำนาจใหม่ท้าทาย 3 อาณาจักรที่อ้างถึงหรือไม่ หรือสหรัฐจะยอมให้จีนเป็นผู้นำโลกแทนตนในแนวเดียวกันกับอังกฤษยอมให้สหรัฐเป็นผู้นำหรือไม่ ในกรณีที่มีการท้าทายพร้อมกับการไม่ยินยอม อะไรจะเกิดขึ้น?

ประวัติศาสตร์บ่งว่าการท้าทายและการไม่ยินยอม ย่อมนำไปสู่สงครามครั้งใหญ่และการล่มสลายของอาณาจักร หรือมหาอำนาจแห่งยุค ชาวโลกจำนวนมากที่อยากเห็นสหรัฐล่มสลายคงดีใจ หากการล่มสลายของสหรัฐเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ดี สิ่งที่ควรตระหนักคือ ไม่เฉพาะสหรัฐเท่านั้นจะล่มสลาย เพราะโลกในยุคนี้มีอาวุธนิวเคลียร์


หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ มอง ‘จีน’ มีอิทธิพลศก.ที่สุดในอาเซียน สัดส่วนทะลุ 70% เป็นรองแค่ ‘ลาว’

สถาบันคลังสมองในสิงคโปร์ ISEAS-Yusof Ishak Institute ได้เปิดเผยรายงานประจำปีที่มีชื่อว่า State of So...

ตลาด“ปาล์ม”ปี67ปัจจัยอากาศปั่นป่วน เเนะเกษตรกร-โรงสกัดคุมคุณภาพการผลิต

สถานการณ์ผลผลิต“ปาล์มน้ำมัน” ปี 2567 คาดว่าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคใต้ เนื่องจากปาล์มน้ำมันที่ปลูกใหม...

เช็คโทษปรับค้างค่า 'ทางด่วน' เมินจ่ายเจอสูงสุด 10 เท่า

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดสถิติปริมาณจราจรบนทางพิเศษ รวมทุกสายทาง ประจำปีงบประมาณ 2566 พบว...

ชะตากรรม ‘GDPไทย‘ หลังไตรมาส1 จ่อทรุด ’เอกชน‘ คาดกรอบ 67 ขยายตัว 1.5-2.7%

สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กำลังจะประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 1...